วิธีเปิดบัญชีเทรด USD กับ Exness ประเทศไทย พร้อมคำแนะนำสเปรดและเลเวอเรจ

เรียนรู้วิธีเปิดบัญชีเทรด USD กับ Exness ในประเทศไทย รับคำแนะนำเรื่องสเปรดและเลเวอเรจที่เหมาะสมสำหรับนักเทรดไทย

การเตรียมความพร้อมก่อนเปิดบัญชี Exness ในประเทศไทย

บริษัทของเราให้บริการแพลตฟอร์มเทรดที่ครอบคลุมสำหรับนักลงทุนไทย โดยเฉพาะการเทรดสกุลเงิน USD ที่เป็นที่นิยมในตลาดโฟเร็กซ์ ก่อนเริ่มกระบวนการสมัครสมาชิก ผู้ใช้ต้องเตรียมเอกสารและข้อมูลที่จำเป็นให้ครบถ้วน การเตรียมความพร้อมที่ดีจะช่วยให้กระบวนการยืนยันตัวตนเสร็จสิ้นภายใน 24 ชั่วโมง

เอกสารหลักที่จำเป็นสำหรับการสมัครบัญชีของเราประกอบด้วยบัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ นอกจากนี้ยังต้องมีหลักฐานที่อยู่อาศัยปัจจุบันในประเทศไทย เช่น ใบเรียกเก็บเงินค่าสาธารณูปโภค หรือใบแจ้งยอดบัญชีธนาคาร ที่ออกไม่เกิน 3 เดือน

เราแนะนำให้ผู้ใช้เตรียมอีเมลที่ใช้งานอยู่จริง และหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่สามารถรับ SMS ได้ ข้อมูลเหล่านี้จะใช้สำหรับการยืนยันตัวตนและการรับข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับบัญชีเทรด การเลือกรหัสผ่านที่แข็งแกร่งด้วยตัวอักษรผสมตัวเลขอย่างน้อย 8 หลักจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชี

เอกสารที่ต้องการ รายละเอียด เวลาที่ใช้
บัตรประชาชน/หนังสือเดินทาง ไฟล์ภาพชัดเจน ไม่หมดอายุ 2-3 นาที
หลักฐานที่อยู่ ใบเรียกเก็บเงิน ไม่เกิน 3 เดือน 2-3 นาที
ข้อมูลติดต่อ อีเมล, เบอร์โทรศัพท์ 1 นาที

ข้อกำหนดพื้นฐานสำหรับนักเทรดไทย

ระบบของเราต้องการให้ผู้สมัครมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ และเป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือมีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย การยืนยันสถานะความเป็นพลเมืองจะกระทำผ่านระบบ KYC (Know Your Customer) ที่เป็นมาตรฐานสากล บริษัทของเราไม่อนุญาตให้พลเมืองสหรัฐอเมริกาเปิดบัญชีตามกฎระเบียบ FATCA

ผู้สมัครต้องมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการเทรดโฟเร็กซ์และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง เราให้บริการบัญชีเดโมสำหรับฝึกฝนก่อนเริ่มเทรดด้วยเงินจริง บัญชีเดโมมีเงินทุนเสมือน $10,000 USD ให้ทดลองใช้งานฟรี

ขั้นตอนการสมัครบัญชีเทรด USD กับ Exness

กระบวนการสมัครสมาชิกของเราเริ่มต้นที่เว็บไซต์หลัก exness.com โดยคลิกปุ่ม “เปิดบัญชี” ที่มุมขวาบน หน้าจอจะแสดงฟอร์มลงทะเบียนที่ต้องกรอกข้อมูลพื้นฐาน ระบบจะขอให้เลือกประเทศไทยเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายหลัง

การกรอกข้อมูลส่วนตัวต้องตรงกับเอกสารประกอบการสมัคร รวมถึงชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด และที่อยู่ปัจจุบัน ระบบจะตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดยอัตโนมัติ หากพบข้อผิดพลาดจะมีการแจ้งเตือนทันที

ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัย ประกอบด้วยตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก และตัวเลข อย่างน้อย 8 หลัก เราแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเกิดหรือชื่อ ในรหัสผ่าน ระบบจะประเมินความแข็งแกร่งของรหัสผ่านแบบเรียลไทม์

หากมี Partner Code สามารถกรอกในช่องที่กำหนดเพื่อเชื่อมโยงกับโปรแกรมพาร์ทเนอร์ของเรา การกรอกรหัสนี้เป็นทางเลือกและไม่บังคับ ผู้สมัครต้องยืนยันว่าไม่ใช่พลเมืองหรือผู้มีถิ่นฐานในสหรัฐอเมริกา

การยืนยันตัวตนและเอกสาร

ระบบ KYC ของเราใช้เทคโนโลยี OCR (Optical Character Recognition) ในการอ่านข้อมูลจากเอกสาร การอัปโหลดรูปภาพต้องมีความละเอียดไม่ต่ำกว่า 300 DPI และขนาดไฟล์ไม่เกิน 8 MB รองรับไฟล์รูปแบบ JPEG, PNG และ PDF เท่านั้น

กระบวนการยืนยันแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ Basic Verification และ Full Verification ระดับพื้นฐานต้องการเพียงบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง ส่วนระดับเต็มรูปแบบต้องการหลักฐานที่อยู่เพิ่มเติม การยืนยันระดับเต็มจะเพิ่มขีดจำกัดการฝาก-ถอนเงินและปลดล็อกฟีเจอร์พิเศษ

ระยะเวลาในการตรวจสอบเอกสารโดยทั่วไปใช้เวลา 1-24 ชั่วโมง ในวันทำการ ระบบจะส่งอีเมลแจ้งผลการยืนยันพร้อมขั้นตอนถัดไป หากเอกสารไม่ผ่านการตรวจสอบ ทีมงานจะแจ้งเหตุผลและวิธีแก้ไขโดยละเอียด

ประเภทบัญชีเทรดและคุณสมบัติเฉพาะ

บริษัทของเรามีบัญชีเทรดหลัก 3 ประเภทสำหรับตลาดไทย ได้แก่ Standard, Pro และ Raw Spread แต่ละประเภทมีข้อดีเฉพาะและเหมาะสมกับสไตล์การเทรดที่แตกต่างกัน การเลือกบัญชีที่เหมาะสมจะส่งผลต่อต้นทุนการเทรดและผลกำไรโดยรวม

บัญชี Standard เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น มีสเปรดคงที่และไม่มีค่าคอมมิชชั่น เงินฝากขั้นต่ำเริ่มต้นที่ $10 USD เลเวอเรจสูงสุด 1:2000 สำหรับคู่สกุลเงินหลัก บัญชีนี้รองรับการเทรดผ่าน MetaTrader 4, MetaTrader 5 และ Exness Terminal

บัญชี Pro ออกแบบสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ สเปรดเริ่มต้นจาก 0.1 pips สำหรับ EUR/USD เงินฝากขั้นต่ำ $200 USD เลเวอเรจสูงสุด 1:2000 เช่นกัน ข้อดีหลักคือสเปรดแคบกว่าและการประมวลผลคำสั่งที่รวดเร็วขึ้น

บัญชี Raw Spread มอบสเปรดที่แคบที่สุดเริ่มต้นจาก 0.0 pips แต่มีค่าคอมมิชชั่น $3.5 USD ต่อ lot ในการเปิดและปิดสถานะ เงินฝากขั้นต่ำ $200 USD เหมาะสำหรับ scalper และ high-frequency trader

ประเภทบัญชี สเปรดขั้นต่ำ เงินฝากขั้นต่ำ เลเวอเรจสูงสุด คอมมิชชั่น
Standard 0.3 pips $10 USD 1:2000 ไม่มี
Pro 0.1 pips $200 USD 1:2000 ไม่มี
Raw Spread 0.0 pips $200 USD 1:2000 $3.5/lot

การตั้งค่าเลเวอเรจสำหรับการเทรด USD

ระบบของเราอนุญาตให้ปรับเลเวอเรจได้ตั้งแต่ 1:1 ถึง 1:2000 สำหรับคู่สกุลเงินหลักที่มี USD การเลือกเลเวอเรจที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับระดับประสบการณ์และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เทรดเดอร์มือใหม่ควรเริ่มต้นด้วยเลเวอเรจต่ำ เช่น 1:10 หรือ 1:50

การปรับเลเวอเรจสามารถทำได้ผ่าน Personal Area โดยเข้าไปที่เมนู “บัญชีเทรด” และคลิก “ตั้งค่า” ระบบจะแสดงตัวเลือกเลเวอเรจที่ใช้ได้สำหรับแต่ละประเภทตราสาร การเปลี่ยนแปลงจะมีผลทันทีและส่งผลต่อ margin requirement ของสถานะที่เปิดอยู่

เราใช้ระบบ Dynamic Leverage ที่ปรับเลเวอเรจอัตโนมัติตามขนาดของสถานะ สถานะที่มีขนาดใหญ่จะได้รับเลเวอเรจที่ลดลงเพื่อควบคุมความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น สถานะ EUR/USD ขนาด 0-30 lot ใช้เลเวอเรจเต็ม แต่ขนาด 30-60 lot จะลดเหลือ 1:500

วิธีฝากเงินและถอนเงินในสกุล USD

ระบบการเงินของเราสนับสนุนการทำธุรกรรมในสกุล USD โดยตรง โดยไม่ต้องแปลงสกุลเงิน วิธีการฝากเงินหลักสำหรับลูกค้าไทยประกอบด้วยบัตรเครดิต/เดบิต, e-wallet และ cryptocurrency การฝากขั้นต่ำเริ่มต้นที่ $10 USD สำหรับบัญชี Standard

บัตรเครดิต Visa และ MasterCard ที่ออกโดยธนาคารไทยสามารถใช้ฝากเงินได้ทันที ค่าธรรมเนียมการฝากเป็น 0% และเงินจะเข้าบัญชีภายใน 1-3 นาที ระบบรองรับการฝากสูงสุด $50,000 USD ต่อครั้งสำหรับบัตรที่ผ่านการยืนยัน

E-wallet ยอดนิยมที่เราสนับสนุนได้แก่ Skrill, Neteller และ Perfect Money การฝากผ่านช่องทางเหล่านี้ไม่มีค่าธรรมเนียมและประมวลผลทันที วงเงินการฝากสูงสุดขึ้นอยู่กับระดับการยืนยันของ e-wallet นั้นๆ

สำหรับ cryptocurrency เรารองรับ Bitcoin, Ethereum, Tether (USDT) และ USD Coin (USDC) การฝากผ่าน crypto มีข้อดีคือค่าธรรมเนียมต่ำและไม่จำกัดวงเงิน แต่ใช้เวลาประมวลผล 10-60 นาที ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของเครือข่าย blockchain

การถอนเงินใช้หลักการ same-method withdrawal หมายความว่าต้องถอนผ่านช่องทางเดียวกับที่ฝาก การถอนผ่านบัตรเครดิตใช้เวลา 3-5 วันทำการ ส่วน e-wallet และ crypto ใช้เวลา 1-24 ชั่วโมง

ข้อกำหนดและข้อจำกัดการทำธุรกรรม

ระบบของเรามีนโยบาย AML (Anti-Money Laundering) ที่เข้มงวด ลูกค้าต้องถอนเงินต้นทุนผ่านช่องทางเดียวกับการฝากก่อน จึงจะสามารถถอนกำไรผ่านช่องทางอื่นได้ การยืนยัน Full Verification จำเป็นสำหรับการถอนเงินครั้งแรก

วงเงินการถอนสำหรับบัญชีที่ยืนยันแล้วคือ $200,000 USD ต่อวัน และ $2,000,000 USD ต่อเดือน บัญชีที่ยังไม่ยืนยันเต็มรูปแบบมีวงเงินจำกัดที่ $2,000 USD ต่อเดือน การขอเพิ่มวงเงินสามารถทำได้โดยติดต่อทีมสนับสนุนลูกค้า

ค่าธรรมเนียมการถอนขึ้นอยู่กับวิธีการและจำนวนเงิน การถอนฟรี 3 ครั้งแรกต่อเดือนสำหรับทุกช่องทาง หลังจากนั้นจะมีค่าธรรมเนียมตามอัตราที่กำหนด การถอนจำนวนน้อยอาจมีค่าธรรมเนียมคงที่

ช่องทางการฝาก เวลารับเงิน ค่าธรรมเนียม วงเงินสูงสุด
บัตรเครดิต/เดบิต 1-3 นาที 0% $50,000 ต่อครั้ง
E-wallet (Skrill, Neteller) ทันที 0% ขึ้นกับระดับการยืนยัน
Cryptocurrency (BTC, ETH, USDT, USDC) 10-60 นาที ต่ำ ไม่จำกัด

แพลตฟอร์มเทรดและเครื่องมือวิเคราะห์

เราให้บริการแพลตฟอร์มเทรดหลากหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของเทรดเดอร์ทุกระดับ MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เป็นแพลตฟอร์มหลักที่มีเครื่องมือวิเคราะห์ครบครัน รองรับ Expert Advisor (EA) และ custom indicator นอกจากนี้ยังมี Exness Terminal และ Exness Trade app สำหรับการเทรดบนมือถือ

MetaTrader 4 มี technical indicator มากกว่า 30 ตัว รวมถึง Moving Average, RSI, MACD และ Bollinger Bands รองรับ timeframe ตั้งแต่ M1 ถึง MN1 การวิเคราะห์ราคาสามารถทำได้ผ่าน candlestick, bar chart และ line chart ระบบ backtesting ช่วยทดสอบกลยุทธ์การเทรดด้วยข้อมูลประวัติศาสตร์

MetaTrader 5 มีความสามารถเพิ่มเติมในด้าน market depth, economic calendar และ MQL5 programming language การแสดงผลกราฟมีความละเอียดสูงกว่าและรองรับการเทรดหลายตราสารพร้อมกัน ระบบ order management ที่พัฒนาขึ้นช่วยให้ควบคุมคำสั่งซื้อขายได้มีประสิทธิภาพ

การติดตั้งและเข้าถึงแพลตฟอร์ม

ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ได้จากเว็บไซต์ของเรา รองรับ Windows, Mac, Android และ iOS การติดตั้งไม่ซับซ้อน ใช้เวลาน้อยกว่า 5 นาที หลังติดตั้งให้ล็อกอินด้วยรหัสบัญชีและรหัสผ่านที่สร้างขึ้นในระบบ Personal Area

Exness Terminal สามารถใช้งานได้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม รองรับ Google Chrome, Firefox และ Safari ที่อัพเดตล่าสุด แพลตฟอร์มนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าถึงแบบรวดเร็วและใช้งานง่าย

สำหรับมือถือ เรามีแอป Exness Trade ที่รองรับ Android ตั้งแต่เวอร์ชัน 5.0 และ iOS ตั้งแต่เวอร์ชัน 12 ขึ้นไป แอปนี้มีฟีเจอร์ครบถ้วน เช่น การวิเคราะห์กราฟ, การเปิดปิดคำสั่ง และการแจ้งเตือนราคาตลาดแบบเรียลไทม์

การใช้งานเครื่องมือวิเคราะห์ในแพลตฟอร์ม Exness

เครื่องมือวิเคราะห์ในแพลตฟอร์มของเราช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ อินดิเคเตอร์ที่ใช้งานบ่อย เช่น Moving Average ช่วยดูแนวโน้มราคา RSI ใช้วัดความแรงของตลาด และ MACD ช่วยวิเคราะห์จุดเปลี่ยนแปลงราคา

ผู้ใช้สามารถเพิ่มหรือลบอินดิเคเตอร์ได้ง่าย ๆ ผ่านเมนู Indicator ในแพลตฟอร์ม MetaTrader หรือ Exness Terminal การตั้งค่าพารามิเตอร์สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ เช่น ระยะเวลา (Period) และประเภทการคำนวณ

สำหรับกลยุทธ์ที่ซับซ้อน เราแนะนำให้ใช้ Expert Advisor (EA) ที่พัฒนาโดยชุมชน MetaTrader ซึ่งสามารถติดตั้งและตั้งค่าได้ภายในแพลตฟอร์ม ระบบรองรับการรัน EA อัตโนมัติ 24 ชั่วโมง ช่วยลดภาระการดูแลของเทรดเดอร์

เครื่องมือวิเคราะห์ วัตถุประสงค์ การตั้งค่าหลัก
Moving Average วิเคราะห์แนวโน้มราคา Period, Type (Simple, Exponential)
RSI วัดความแรงของตลาด Period, Overbought/Oversold Levels
MACD หาจุดเปลี่ยนแปลงราคา Fast EMA, Slow EMA, Signal SMA

การตั้งค่าการแจ้งเตือนราคา

การแจ้งเตือนราคาเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้นักเทรดไม่พลาดโอกาสสำคัญ ผู้ใช้สามารถตั้งค่าแจ้งเตือนผ่าน MetaTrader หรือแอป Exness Trade โดยกำหนดระดับราคาและเงื่อนไขที่ต้องการ

เมื่อราคาถึงระดับที่ตั้งไว้ ระบบจะแจ้งเตือนผ่านเสียง, ข้อความ หรือการแจ้งเตือนในแอป ผู้ใช้สามารถตั้งค่าแจ้งเตือนหลายระดับพร้อมกันเพื่อครอบคลุมกลยุทธ์ต่าง ๆ

การจัดการคำสั่งซื้อขาย

แพลตฟอร์มของเรามีระบบจัดการคำสั่งซื้อขายครบถ้วน รองรับคำสั่งแบบ Market, Limit, Stop และ Stop Limit การแก้ไขคำสั่งและปิดสถานะสามารถทำได้ง่ายผ่านหน้าจอหลักหรือกราฟ

นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่า trailing stop เพื่อปกป้องกำไรโดยอัตโนมัติ ระบบประมวลผลคำสั่งรวดเร็ว ภายใน 0.1 วินาที ช่วยลดความเสี่ยงจากการล่าช้าของราคา

การบริหารความเสี่ยงและการจัดการเงินทุน

การบริหารความเสี่ยงเป็นหัวใจสำคัญของการเทรดที่ประสบความสำเร็จ เราแนะนำให้เทรดเดอร์กำหนดขนาดสถานะที่เหมาะสมกับเงินทุนและเลเวอเรจที่ใช้ การตั้ง Stop Loss และ Take Profit เป็นมาตรฐานที่ควรปฏิบัติ

ระบบ Exness ช่วยให้ตั้งคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit ได้ง่ายผ่านแผงคำสั่ง โดยสามารถกำหนดเป็นราคา, จำนวน pip หรือเปอร์เซ็นต์ของทุนได้

นอกจากนี้ เรายังมีฟีเจอร์ Equity Protection ที่ช่วยปกป้องเงินทุนในบัญชีไม่ให้ติดลบ ระบบจะปิดสถานะอัตโนมัติหากทุนถึงระดับที่กำหนดไว้

การจัดการเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

การวางแผนเงินทุนอย่างรอบคอบช่วยลดความเสี่ยงจากการสูญเสีย เราแนะนำให้ใช้หลักการบริหารเงินทุน เช่น การใช้สัดส่วนความเสี่ยงต่อการลงทุนไม่เกิน 2% ต่อการเทรดแต่ละครั้ง

เทรดเดอร์สามารถติดตามสถานะบัญชีและกำไรขาดทุนได้แบบเรียลไทม์ผ่าน Personal Area และแอป Exness Trade

การใช้บัญชีเดโมสำหรับฝึกฝน

บัญชีเดโมของเราเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการทดลองกลยุทธ์และเรียนรู้การใช้งานแพลตฟอร์มโดยไม่เสียเงินจริง ผู้ใช้จะได้รับเงินเสมือน $10,000 USD เพื่อการฝึกฝน

บัญชีเดโมรองรับทุกประเภทบัญชีและทุกเครื่องมือเทรด เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทดลองตั้งค่าต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วนก่อนเริ่มเทรดจริง

การสนับสนุนลูกค้าและการบริการในประเทศไทย

เราให้บริการลูกค้าในประเทศไทยด้วยทีมงานมืออาชีพที่พร้อมตอบคำถามและแก้ไขปัญหาตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทางแชทสด อีเมล และโทรศัพท์

เว็บไซต์และแพลตฟอร์มของเรารองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ เพื่อให้การใช้งานสะดวกและเข้าใจง่ายสำหรับผู้ใช้ชาวไทย

ทีมสนับสนุนช่วยแนะนำวิธีการใช้งานแพลตฟอร์ม การฝากถอนเงิน และการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ช่องทางติดต่อ เวลาทำการ บริการ
แชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน ตอบคำถามและแก้ไขปัญหา
อีเมล [email protected] 24 ชั่วโมง ทุกวัน แจ้งปัญหาและสอบถามข้อมูล
โทรศัพท์ +66 2 123 4567 9:00 – 18:00 น. จันทร์-ศุกร์ บริการลูกค้าในประเทศไทย

การเข้าร่วมสัมมนาและอบรมออนไลน์

เราเปิดโอกาสให้ลูกค้าไทยเข้าร่วมสัมมนาและการอบรมออนไลน์ที่จัดโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ด้านการเทรด

สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมผ่านเว็บไซต์ของเรา โดยมีหัวข้อครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานการเทรดจนถึงกลยุทธ์ระดับสูง

การอัปเดตข่าวสารและโปรโมชั่น

ลูกค้าจะได้รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับตลาดและโปรโมชั่นพิเศษผ่านอีเมลและแอปพลิเคชัน Exness Trade เพื่อไม่พลาดโอกาสในการเทรดและรับสิทธิประโยชน์