วิธีเริ่มเทรดกับ Exness ในประเทศไทยด้วยเงินฝากขั้นต่ำ
เปิดบัญชี Exness ในไทยด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียงเล็กน้อย พร้อมเทรดฟอเร็กซ์และ CFD บนแพลตฟอร์มระดับโลกที่รองรับภาษาไทย
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเงินฝากขั้นต่ำของ Exness
Exness คือโบรกเกอร์ที่ให้บริการทั้งฟอเร็กซ์และ CFD สำหรับนักเทรดในประเทศไทย เรากำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่เหมาะสมกับทุกระดับ ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นจนถึงมืออาชีพ บัญชีมาตรฐานเริ่มต้นด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 35 บาทไทย ระบบฝากเงินรองรับธนาคารไทย, e-wallet และ cryptocurrency พร้อมการฝากเงินที่รวดเร็วและไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
ประเภทบัญชี | เงินฝากขั้นต่ำ (USD) | เงินฝากขั้นต่ำ (THB) | เหมาะสำหรับ |
---|---|---|---|
Standard | $1 | ฿35 | ผู้เริ่มต้น |
Raw Spread | $200 | ฿7,000 | นักเทรดระดับกลาง |
Zero | $500 | ฿17,500 | นักเทรดมืออาชีพ |
Pro | $200 | ฿7,000 | ผู้ที่ต้องการ spread ต่ำ |
ข้อดีของการเริ่มต้นด้วยเงินฝากขั้นต่ำ
เริ่มต้นด้วยเงินฝากขั้นต่ำช่วยให้คุณทดลองใช้แพลตฟอร์มโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินทุนมาก เรารองรับการใช้งาน MetaTrader 4, MetaTrader 5 และ Exness Trade app พร้อม leverage สูงสุด 1:2000 ในบัญชี Standard เพื่อเพิ่มพลังการเทรด อย่างไรก็ตาม ควรบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันการสูญเสียที่ไม่คาดคิด
- ทดลองฟีเจอร์และเครื่องมือเทรดได้อย่างปลอดภัย
- ใช้ leverage เพื่อเพิ่มโอกาสกำไร
- เหมาะสำหรับเรียนรู้แพลตฟอร์ม
- ไม่มีความกดดันเรื่องเงินทุนสูง
- สะดวกสำหรับนักเทรดทุกระดับ
เงินฝากขั้นต่ำเป็นตัวช่วยที่สำคัญสำหรับการเริ่มต้นเทรดในตลาดฟอเร็กซ์และ CFD อย่างมีประสิทธิภาพในประเทศไทย
ขั้นตอนการสมัครบัญชีและฝากเงินขั้นต่ำ
ระบบการสมัครบัญชีของเราถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายและรวดเร็ว คุณสามารถเปิดบัญชีได้ภายใน 5 นาทีโดยทำตามขั้นตอนที่ชัดเจน เริ่มจากเข้าสู่เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของ Exness จากนั้นกรอกข้อมูลพื้นฐาน เช่น อีเมล, ประเทศไทย และรหัสผ่าน
การเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสม
เลือกบัญชี Standard สำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเงินฝากขั้นต่ำต่ำและ spread เริ่มต้น 0.3 pips บัญชี Raw Spread เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ ต้องการ spread ต่ำสุดแต่มีค่าคอมมิชชัน บัญชี Zero เหมาะกับผู้ที่ต้องการไม่มีค่าคอมมิชชันแต่ spread สูงขึ้นเล็กน้อย โดยสามารถปรับ leverage และสกุลเงินตามความต้องการ
- เข้าไปที่หน้า Personal Area
- เลือก “เปิดบัญชีใหม่”
- เลือกประเภทบัญชีที่ต้องการ
- กำหนด leverage และสกุลเงินพื้นฐาน
- ยืนยันการสร้างบัญชี
การยืนยันตัวตน
เพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ทั้งหมดและสามารถถอนเงินได้ คุณต้องทำการยืนยันตัวตนโดยอัปโหลดเอกสารประจำตัวที่ออกโดยรัฐบาล เช่น บัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง กระบวนการนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือให้กับบัญชีของคุณ
วิธีการฝากเงินในประเทศไทย
เรามีช่องทางฝากเงินหลากหลายที่เหมาะกับลูกค้าในประเทศไทย รวมถึงธนาคารไทยหลัก เช่น กสิกรไทย, ไทยพาณิชย์ และกรุงเทพ การฝากเงินผ่านธนาคารมักจะเข้าบัญชีทันทีโดยไม่มีค่าธรรมเนียม และระบบยังรองรับ e-wallet อย่าง Skrill, Neteller และ Perfect Money
ขั้นตอนการฝากเงินผ่านธนาคารไทย
เข้าสู่ระบบ Personal Area เลือกเมนู “ฝากเงิน” จากนั้นเลือกวิธีฝากเงินแบบ “Bank Transfer” และระบุประเทศไทย ระบบจะแสดงข้อมูลบัญชีธนาคารสำหรับโอนเงิน กรอกจำนวนเงินที่ต้องการฝากโดยต้องไม่น้อยกว่าเงินฝากขั้นต่ำของบัญชีที่ใช้งาน ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนบาทเป็นดอลลาร์สหรัฐก่อนทำรายการ จากนั้นทำการโอนผ่านแอปธนาคารหรืออินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง โดยใส่หมายเลขอ้างอิงที่ระบบระบุ เพื่อยืนยันการโอน
การฝากเงินผ่าน E-wallet
ช่องทางนี้เป็นทางเลือกที่สะดวก รวดเร็ว และไม่มีค่าธรรมเนียม เรารองรับ Skrill และ Neteller ซึ่งคุณสามารถเติมเงินผ่านบัตรเครดิตหรือโอนเงินผ่านธนาคาร หลังจากนั้นเข้าไปที่หน้าฝากเงิน เลือก e-wallet ที่ต้องการและกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ระบบจะเชื่อมต่อไปยังบัญชี e-wallet เพื่อยืนยันการทำรายการทันที
การฝากเงินด้วย Cryptocurrency
สำหรับนักเทรดที่สนใจใช้สกุลเงินดิจิทัล เรารองรับ Bitcoin, Ethereum และ Tether (USDT) โดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม กระบวนการฝากเงินจะใช้เวลารวดเร็วและปลอดภัย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นและความเป็นส่วนตัวสูงในการทำธุรกรรม
แพลตฟอร์มเทรดที่รองรับในประเทศไทย
Exness มีแพลตฟอร์มเทรดที่รองรับภาษาไทย ได้แก่ MetaTrader 4, MetaTrader 5, Exness Trade app และ WebTerminal แต่ละแพลตฟอร์มถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
แพลตฟอร์ม | ระบบปฏิบัติการ | ขนาดไฟล์ | จุดเด่น |
---|---|---|---|
MT4 | Windows, Mac, iOS, Android | 15-25 MB | เหมาะสำหรับฟอเร็กซ์ |
MT5 | Windows, Mac, iOS, Android | 20-30 MB | รองรับหุ้นและ CFD |
Exness Trade | iOS, Android | 10-15 MB | ใช้งานง่าย UI สวยงาม |
WebTerminal | เว็บเบราว์เซอร์ | ไม่ต้องติดตั้ง | เข้าถึงได้ทุกที่ |
การใช้งาน Exness Trade App
แอปมือถือของเรารองรับการเทรดฟอเร็กซ์และ CFD ครอบคลุมคู่เงินหลัก ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโต มีเครื่องมือวิเคราะห์พื้นฐานพร้อมฟีเจอร์ตั้ง stop loss และ take profit ดาวน์โหลดได้จาก App Store หรือ Google Play Store โดยรองรับการทำงานเต็มรูปแบบในประเทศไทย
- ดาวน์โหลดและติดตั้งแอป
- เข้าสู่ระบบด้วยข้อมูลบัญชี Exness
- เลือกตลาดและตราสารที่ต้องการเทรด
- ตั้งค่าคำสั่งซื้อขาย เช่น stop loss, take profit
- ติดตามและจัดการคำสั่งผ่านแอป
คู่เงินและตราสารการเทรดที่รองรับ
Exness ให้บริการเทรดฟอเร็กซ์และ CFD ที่ครอบคลุมตลาดหลักและรองในประเทศไทย เรามีคู่เงินฟอเร็กซ์มากกว่า 120 คู่ รวมถึงคู่เงินหลัก คู่รอง และคู่เงินแปลกใหม่ โดยเฉพาะคู่ USD/THB ที่นักเทรดไทยนิยมมาก
คู่เงินฟอเร็กซ์ยอดนิยม
คู่เงินที่มีสภาพคล่องสูงและ spread ต่ำ เหมาะสำหรับการเทรดในประเทศไทย ได้แก่ EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY, AUD/USD และ USD/CHF ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักเทรดทุกระดับ
- EUR/USD – สภาพคล่องสูงสุด
- GBP/USD – เหมาะสำหรับเทรดระยะสั้น
- USD/JPY – ความผันผวนปานกลาง
- AUD/USD – ผลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์
- USD/THB – คู่เงินไทยที่น่าสนใจ
การเทรด CFD บนสินค้าโภคภัณฑ์และดัชนี
เรามีดัชนีหุ้นชั้นนำ เช่น S&P 500, NASDAQ, FTSE 100 และสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำ น้ำมัน และเงิน นอกจากนี้ยังรองรับคริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Bitcoin และ Ethereum เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุน
เครื่องมือจัดการความเสี่ยงสำหรับนักเทรดไทย
การควบคุมความเสี่ยงเป็นส่วนสำคัญของการเทรดกับ Exness เรามีเครื่องมือที่ช่วยป้องกันการสูญเสีย เช่น stop loss, take profit และ negative balance protection ที่ทำให้คุณไม่เสียเงินเกินเงินฝาก
การใช้งาน Stop Loss และ Take Profit
ตั้งระดับ stop loss เพื่อจำกัดการสูญเสียไม่เกิน 2-3% ของเงินทุนในแต่ละสถานะ ใช้อัตราส่วน risk:reward อย่างน้อย 1:2 เพื่อเพิ่มโอกาสได้กำไร และคำนวณขนาดสถานะตามระยะห่างของ stop loss เพื่อความปลอดภัยในการเทรด
เครื่องมือ | วิธีใช้ | ประโยชน์ |
---|---|---|
Stop Loss | ตั้งระดับราคาที่ยอมรับการสูญเสีย | จำกัดความเสียหาย |
Take Profit | กำหนดเป้าหมายกำไร | รักษากำไรที่ได้ |
Trailing Stop | ปรับ stop loss ตามทิศทางกำไร | เพิ่มกำไรและลดความเสี่ยง |
การวิเคราะห์ตลาดและข่าวสารเศรษฐกิจ
Exness มีศูนย์วิเคราะห์ตลาดและข่าวสารเศรษฐกิจที่อัปเดตเรียลไทม์ ช่วยให้นักเทรดไทยวางแผนกลยุทธ์ได้ดีขึ้น ข้อมูลเหล่านี้รวมถึงปฏิทินเศรษฐกิจ, ข่าวสำคัญ และบทวิเคราะห์เชิงลึก
การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ในแพลตฟอร์ม
MetaTrader 4 และ 5 มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากกว่า 30 ตัว รวมถึง Expert Advisors ที่ช่วยเทรดอัตโนมัติ Exness Trade app มีฟีเจอร์แจ้งเตือนข่าวสารและการวิเคราะห์ที่เข้าใจง่าย เหมาะกับนักเทรดทุกระดับ
ปฏิทินเศรษฐกิจและข่าวสารในประเทศไทย
เรามีปฏิทินเศรษฐกิจที่แสดงเหตุการณ์สำคัญของไทยและทั่วโลก เช่น ประชุมธนาคารกลาง ตัวเลข GDP และอัตราเงินเฟ้อ ช่วยให้นักเทรดประเมินทิศทางตลาดอย่างแม่นยำ
ข้อกำหนดระบบและข้อจำกัดในการใช้งาน
แพลตฟอร์มของ Exness รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, Mac, iOS และ Android โดยต้องการพื้นที่ว่างประมาณ 15-30 MB สำหรับแอปและโปรแกรม นอกจากนี้ WebTerminal สามารถใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์โดยไม่ต้องติดตั้ง
ข้อจำกัดทางเทคนิค
บัญชี Standard มี leverage สูงสุด 1:2000 ขณะที่บัญชีอื่นอาจมีข้อจำกัด leverage ต่างกัน ขนาดคำสั่งซื้อขายขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 0.01 lot และสูงสุด 200 lot ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและตราสาร
การสนับสนุนและบริการลูกค้าในประเทศไทย
เรามีทีมสนับสนุนลูกค้าภาษาไทย พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ผ่านแชทสด อีเมล และโทรศัพท์ รวมถึงศูนย์ช่วยเหลือออนไลน์เพื่อแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว
ระบบปฏิบัติการ | ขนาดไฟล์ | ข้อจำกัด |
---|---|---|
Windows, Mac | 15-30 MB | ต้องติดตั้งโปรแกรม |
iOS, Android | 10-15 MB | รองรับมือถือเท่านั้น |
WebTerminal | ไม่ต้องติดตั้ง | ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต |
❓ FAQ
เงินฝากขั้นต่ำสำหรับบัญชี Standard ในประเทศไทยเท่าไร?
เงินฝากขั้นต่ำสำหรับบัญชี Standard คือ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 35 บาทไทย
สามารถฝากเงินผ่านช่องทางใดได้บ้างในประเทศไทย?
รองรับการฝากผ่านธนาคารไทย, e-wallet เช่น Skrill, Neteller และ cryptocurrency อย่าง Bitcoin, Ethereum และ USDT
แพลตฟอร์มใดบ้างที่รองรับการเทรดในไทย?
MetaTrader 4, MetaTrader 5, Exness Trade app และ WebTerminal รองรับภาษาไทยและการใช้งานในประเทศไทย
Leverage สูงสุดที่ Exness ให้บริการในไทยคือเท่าไร?
บัญชี Standard ให้ leverage สูงสุด 1:2000 แต่บัญชีอื่นอาจมีข้อจำกัดแตกต่างกัน
มีเครื่องมือจัดการความเสี่ยงอะไรบ้าง?
มี Stop Loss, Take Profit, Trailing Stop และ Negative Balance Protection เพื่อช่วยควบคุมความเสี่ยง